เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี

 เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี

เพชรดำเกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 1998 เป็นลูกชายคนโตในบรรดาลูกชาย 3 คนของครอบครัวชาวนาที่มีฐานะยากจน ซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี พวกเขาต้องดิ้นรนหาเช้ากินค่ำ ตัว เพชรดำ แม้จะเป็นเด็กก็ต้องหาทางช่วยเหลือแบ่งเบาภาระพ่อแม่

เพชรดำ เข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของ “ครูอ๊อด พิบูลย์” เจ้าของค่ายมวยศิษย์อ๊อดพิบูลย์ ซึ่งเลี้ยงดูเขาเหมือนลูกเหมือนหลาน จากคนไม่เป็นมวย เพชรดำ ก็ค่อยๆ ซึมซับวิชาความรู้ และเดินสายชกสั่งสมกระดูกมวยหลายครั้ง แต่ยังไม่มีชื่อเสียงอะไรในตอนนั้น

ช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ เพชรดำ มีออกนอกลู่นอกทางบ้างตามประสาเด็กๆ ที่อยากไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน เพราะมันน่าสนุกกว่าการขลุกอยู่ในค่ายมวยเป็นไหนๆ แต่โชคดีที่เขายังมีจิตสำนึกรักดี และรู้ว่าเขาจะสามารถเป็นอีกหนึ่งเรี่ยวแรงในการหาเลี้ยงครอบครัวได้ในอนาคต

ฝึกมวยกับ ครูอ๊อด อยู่หลายปี จนกระทั่งเขาเรียนอยู่ชั้น ม.1 ครูอ๊อด ก็ตัดสินใจเลิกทำค่ายเพราะไม่มีเวลา เพชรดำ ซึ่งตัดสินใจศึกษาต่อให้จบชั้น ม.3 จึงร้างเวทีไปนานถึง 2 ปี ก่อนที่จะย้ายตามนักมวยรุ่นพี่ของค่าย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” เข้าสู่เมืองหลวงของประเทศไทยในวัย 16 ปี

การมาอยู่ค่ายเพชรยินดีฯ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ เพชรดำ ช่วงเวลากว่า 7 ปีในค่ายนี้พลิกชีวิตนักมวยตัวแถม จากค่าตัวหลักพันขยับเป็นหลักหมื่น ปัจจุบันได้ค่าตัวหลักแสน ขึ้นแท่นนักชกดีกรีแชมป์เข็มขัดหลายเส้น ทั้งแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินีและแชมป์ประเทศไทย 118 ป. แชมป์ WBC 126 ป. และแชมป์โตโยต้ามาราธอน 135 ป. เขาโชว์ผลงานน็อกเอาต์คู่แข่งขันทั้งในกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง 3 ไฟต์รวด ก่อนจะคว้าแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรายการมาครองได้สำเร็จ ถือเป็นความภาคภูมิใจสำหรับนักมวยไทยคนหนึ่ง

ข่าวสารมากมายเกี่ยวกับวงการมวยเยอะแยะ แค่นั้นยังไม่พอเรายังมีวิเคราะห์มวยประจำอีกด้วย หรือจะเป็น โปรแกรมมวยรายวัน แค่นั้นยังไม่พอเราเสริฟ บทความมวย ประวัตินักมวยหลากหลายให้ท่านที่ แทงมวยไทย.comได้รับชม หรือ  สนใจในกีฬาอื่นเราก็มีอีกเยอะ ครอบคลุมทุก กีฬา จะเป็น รถแข่ง หรือ ฟุตบอล บาสเกตบอล มวย e-sport ติดตามได้ที่ เพจ กีฬาตองสอง.com  

เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี่

เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี เป็นลูกชายคนโตในบรรดาลูกชาย 3 คนของครอบครัวชาวนาที่มีฐานะยากจน ซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี พวกเขาต้องดิ้นรนหาเช้ากินค่ำ ตัว เพชรดำ แม้จะเป็นเด็กก็ต้องหาทางช่วยเหลือแบ่งเบาภาระพ่อแม่

ตอนขึ้นชกครั้งแรก ทั้ง เพชรดำ และคู่แข่งขัน ต่างก็ไม่เป็นมวย ชกเหมือนว่ายน้ำใส่กัน ผลการแข่งขันเพชรดำเป็นฝ่ายแพ้คะแนน รับค่าตัว 300 บาทเป็นกำลังใจ ให้เห็นช่องทางทำมาหากินได้ แต่ชกอยู่ 4-5 ไฟต์ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ พ่อไม่รู้จะสอนยังไง จึงพาไปฝากค่ายมวยแถวบ้าน ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เพชรดำได้ฝึกมวยอย่างจริงจัง เพชรดำ เข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของ “ครูอ๊อด พิบูลย์” เจ้าของค่ายมวยศิษย์อ๊อดพิบูลย์ ซึ่งเลี้ยงดูเขาเหมือนลูกเหมือนหลาน จากคนไม่เป็นมวย เพชรดำ ก็ค่อยๆ ซึมซับวิชาความรู้ และเดินสายชกสั่งสมกระดูกมวยหลายครั้ง แต่ยังไม่มีชื่อเสียงอะไรในตอนนั้น

เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี่

ประวัติ

เพชรดำเกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 1998 เป็นลูกชายคนโตในบรรดาลูกชาย 3 คนของครอบครัวชาวนาที่มีฐานะยากจน ซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี พวกเขาต้องดิ้นรนหาเช้ากินค่ำ ตัว เพชรดำ แม้จะเป็นเด็กก็ต้องหาทางช่วยเหลือแบ่งเบาภาระพ่อแม่

เพชรดำ เข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของ “ครูอ๊อด พิบูลย์” เจ้าของค่ายมวยศิษย์อ๊อดพิบูลย์ ซึ่งเลี้ยงดูเขาเหมือนลูกเหมือนหลาน จากคนไม่เป็นมวย เพชรดำ ก็ค่อยๆ ซึมซับวิชาความรู้ และเดินสายชกสั่งสมกระดูกมวยหลายครั้ง แต่ยังไม่มีชื่อเสียงอะไรในตอนนั้น

ช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ เพชรดำ มีออกนอกลู่นอกทางบ้างตามประสาเด็กๆ ที่อยากไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน เพราะมันน่าสนุกกว่าการขลุกอยู่ในค่ายมวยเป็นไหนๆ แต่โชคดีที่เขายังมีจิตสำนึกรักดี และรู้ว่าเขาจะสามารถเป็นอีกหนึ่งเรี่ยวแรงในการหาเลี้ยงครอบครัวได้ในอนาคต

ฝึกมวยกับ ครูอ๊อด อยู่หลายปี จนกระทั่งเขาเรียนอยู่ชั้น ม.1 ครูอ๊อด ก็ตัดสินใจเลิกทำค่ายเพราะไม่มีเวลา เพชรดำ ซึ่งตัดสินใจศึกษาต่อให้จบชั้น ม.3 จึงร้างเวทีไปนานถึง 2 ปี ก่อนที่จะย้ายตามนักมวยรุ่นพี่ของค่าย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” เข้าสู่เมืองหลวงของประเทศไทยในวัย 16 ปี

การมาอยู่ค่ายเพชรยินดีฯ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ เพชรดำ ช่วงเวลากว่า 7 ปีในค่ายนี้พลิกชีวิตนักมวยตัวแถม จากค่าตัวหลักพันขยับเป็นหลักหมื่น ปัจจุบันได้ค่าตัวหลักแสน ขึ้นแท่นนักชกดีกรีแชมป์เข็มขัดหลายเส้น ทั้งแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินีและแชมป์ประเทศไทย 118 ป. แชมป์ WBC 126 ป. และแชมป์โตโยต้ามาราธอน 135 ป. เขาโชว์ผลงานน็อกเอาต์คู่แข่งขันทั้งในกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง 3 ไฟต์รวด ก่อนจะคว้าแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรายการมาครองได้สำเร็จ ถือเป็นความภาคภูมิใจสำหรับนักมวยไทยคนหนึ่ง

เกียรติประวัติ

  • แชมป์ไทยแลนด์รุ่นแบนตั้มเวต 118 ปอนด์ 2015
  • แชมป์ลุมพินี รุ่นแบนตั้มเวต 118 ปอนด์ 2015
  • แชมป์โตโยต้ามาราธอน 126 ปอนด์ ปี 2017
  • แชมป์ WBC มวยไทยโลก รุ่นเฟเธอร์เวท (126 ปอนด์) ประจำปี 2018
  • แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต 2019
  • แชมป์รุ่นไลท์เวท True4U ปี 2020

เพิ่มเติม :: วิเคราะห์มวย
ติดตาม  :: บทความมวยไทย